Latest News

ไม่อยากสูดแต่เชื้อโรคอ่านด่วน! แอร์รถยนต์…ดูแลอย่างไรให้ ‘อึด-ทน’







ระบบปรับอากาศ (แอร์รถยนต์) ถือเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะในบ้านเราที่เดี๋ยวนี้ มีแต่ฤดูร้อนนิดหน่อย-ร้อนลิ้นห้อย-ร้อนตับแลบ นอกจากนั้นยังมีผลต่อระบบหายใจของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร เนื่องจากต้องสูดดมอากาศที่ไหลเวียนผ่านระบบแอร์รถยนต์อยู่ตลอดเวลาเมื่ออยู่ในรถ โดยไม่มีใครล่วงรู้เลยว่าอาจจะเต็มไปด้วย เชื้อโรคก็เป็นได้ วันนี้ รู้ก่อนเหยียบจึงขอนำเสนอวิธีการใช้งานระบบแอร์รถยนต์อย่างถูกต้อง ปลอดภัยทั้งตัวคุณ รวมทั้งยังยืดอายุระบบแอร์ให้ทนทานอยู่คู่รถไปอีกนานแสนนานมาฝาก

ก่อนสตาร์ทเครื่องยนต์ทุกครั้ง ควรปิดสวิตช์ควบคุมคอมเพรสเซอร์ ( A/C) เพื่อไม่ให้คอมเพรสเซอร์ เป็นตัวฉุดกำลังขณะสตาร์ท เมื่อสตาร์ทและวอร์มอัพจนเครื่องยนต์อยู่ในอุณภูมิพร้อมใช้ ควรเปิดแอร์โดยใช้ความเร็วพัดลมสูงก่อน เพื่อเป็นการไล่ความร้อนในระบบแอร์ จากนั้นเปิดสวิช์ A/C และปรับอุณหภูมิให้เหมาะสมกับสภาพอากาศ หากรู้สึกว่าเย็นเกินไป ให้ปรับอุณหภูมิสูงขึ้น แทนการใช้วิธีหันช่องแอร์หนีเพราะจะทำให้คอมเพรสเซอร์ทำงานหนักโดยไม่จำเป็น

ก่อนถึงจุดหมายปลายทางประมาณ 510นาที ให้ปิดสวิตซ์A/C และเปิดพัดลมไปที่ความเร็วสูงสุด ทั้งนี้เพื่อลดการทำงานคอมเพรสเซอร์และไล่ความชื้นออกจากคอล์ยเย็นไม่ให้สะสมจนเกิดเชื้อแบคทีเรีย อันเป็นสาเหตุของกลิ่นอับ จากนั้นจึงปิดพัดลมแล้วดับรถยนต์




เทคนิคควรรู้

- ไม่ควรนำน้ำหอมชนิดที่เป็นแบบมีแอลกอฮอลเป็นส่วนประกอบ ไปเสียบไว้หน้าช่องแอร์ เพราะจะทำให้ตู้แอร์ผุกร่อนเร็วขึ้น

- เมื่อนำรถจอดตากแดดเป็นเวลานานๆ ก่อนใช้รถควรเปิดลมเปล่าให้แรงสุด(ปิดสวิตซ์ A/C) เพื่อไล่ความร้อนที่มีอยู่ในระบบแอร์ออกเสียก่อน แล้วจึงค่อยเปิดน้ำยาแอร์ (เปิดสวิตซ์ A/C)

- ก่อนจอดรถทิ้งไว้นานๆ เช่น จอดข้ามคืน ควรเปิดลมเปล่าให้แรงสุด(ปิดสวิตซ์ A/C) ประมาณ 5 นาที เพื่อไล่ความชื้น ไล่น้ำ ที่ค้างอยู่ในตู้แอร์ออกก่อน เพราะตู้แอร์ทำจากอลูมิเนียม จะเกิดการผุกร่อนได้ง่าย และจะทำให้ตู้แอร์ลดการเหม็นอับอีกด้วย

- จงจำไว้เสมอว่า ระบบแอร์ เป็น ระบบปิดดังนั้นเมื่อรถคุณเติมน้ำยาแอร์บ่อยๆ แสดงว่าเกิดการรั่วของระบบแอร์ในรถของคุณแล้ว

- ไม่ควรเปิดกระจกขับรถบ่อย เพราะจะทำให้ฝุ่นละอองจากภายนอก เข้ามาอุดตันในตู้แอร์ได้เร็วยิ่งขึ้น

- เมื่อแอร์ไม่เย็นให้รีบปิด น้ำยาแอร์หรือ สวิตซ์ A/C ทันที เพื่อเป็นการป้องกัน คอมเพรสเซอร์เสียหาย แล้วรีบนำรถไปตรวจเช็ค โดยยังสามารถใช้ลมเปล่าได้

- ควรล้างตู้แอร์ ทุกๆ 2 ปี แต่ถ้าชอบเปิดกระจกขับรถบ่อย ๆ ให้ล้างทุก ๆ ปี หรือตามเห็นสมควร อย่างไรก็ตามสำหรับรถรุ่นใหม่ ๆ ที่มีกรองแอร์ และเจ้าของดูแลทำความสะอาด-เปลี่ยนอยู่สม่ำเสมอ สามารถยืดอายุออกไปได้อีก

- เมื่อมีเหตุจำเป็นที่ต้องเปิดกระจกขับรถ ควรปิดช่องแอร์บริเวณคอลโซลหรือจุดที่แอร์ออกให้หมดเท่าที่จะทำได้ เพื่อให้ฝุ่นเข้าไปในระบบแอร์น้อยที่สุด

เพียงแค่ดูแลรักษาระบบแอร์รถยนต์ให้ถูกวิธี สามารถช่วยยืดอายุการใช้งานให้ยืนยาวขึ้น แถมช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าได้อีกด้วย




คอลัมน์ : รู้ก่อนเหยียบ โดย "ช่างเอก..."
ที่มา : เดลินิวส์ 



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

รวมเรื่องออนไลน์น่ารู้ | Distributed By Blogger Templates | Designed By Templateism.com

รูปภาพธีมโดย Bim. ขับเคลื่อนโดย Blogger.