ระบบปรับอากาศ (แอร์รถยนต์) ถือเป็นสิ่งสำคัญ
โดยเฉพาะในบ้านเราที่เดี๋ยวนี้
มีแต่ฤดูร้อนนิดหน่อย-ร้อนลิ้นห้อย-ร้อนตับแลบ นอกจากนั้นยังมีผลต่อระบบหายใจของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
เนื่องจากต้องสูดดมอากาศที่ไหลเวียนผ่านระบบแอร์รถยนต์อยู่ตลอดเวลาเมื่ออยู่ในรถ
โดยไม่มีใครล่วงรู้เลยว่าอาจจะเต็มไปด้วย ‘เชื้อโรค’ ก็เป็นได้
วันนี้ “รู้ก่อนเหยียบ” จึงขอนำเสนอวิธีการใช้งานระบบแอร์รถยนต์อย่างถูกต้อง
ปลอดภัยทั้งตัวคุณ รวมทั้งยังยืดอายุระบบแอร์ให้ทนทานอยู่คู่รถไปอีกนานแสนนานมาฝาก
ก่อนสตาร์ทเครื่องยนต์ทุกครั้ง ควรปิดสวิตช์ควบคุมคอมเพรสเซอร์ ( A/C) เพื่อไม่ให้คอมเพรสเซอร์
เป็นตัวฉุดกำลังขณะสตาร์ท
เมื่อสตาร์ทและวอร์มอัพจนเครื่องยนต์อยู่ในอุณภูมิพร้อมใช้
ควรเปิดแอร์โดยใช้ความเร็วพัดลมสูงก่อน เพื่อเป็นการไล่ความร้อนในระบบแอร์
จากนั้นเปิดสวิช์ A/C และปรับอุณหภูมิให้เหมาะสมกับสภาพอากาศ
หากรู้สึกว่าเย็นเกินไป ให้ปรับอุณหภูมิสูงขึ้น
แทนการใช้วิธีหันช่องแอร์หนีเพราะจะทำให้คอมเพรสเซอร์ทำงานหนักโดยไม่จำเป็น
ก่อนถึงจุดหมายปลายทางประมาณ 5 – 10นาที ให้ปิดสวิตซ์A/C และเปิดพัดลมไปที่ความเร็วสูงสุด
ทั้งนี้เพื่อลดการทำงานคอมเพรสเซอร์และไล่ความชื้นออกจากคอล์ยเย็นไม่ให้สะสมจนเกิดเชื้อแบคทีเรีย
อันเป็นสาเหตุของกลิ่นอับ จากนั้นจึงปิดพัดลมแล้วดับรถยนต์
เทคนิคควรรู้
- ไม่ควรนำน้ำหอมชนิดที่เป็นแบบมีแอลกอฮอลเป็นส่วนประกอบ
ไปเสียบไว้หน้าช่องแอร์ เพราะจะทำให้ตู้แอร์ผุกร่อนเร็วขึ้น
- เมื่อนำรถจอดตากแดดเป็นเวลานานๆ
ก่อนใช้รถควรเปิดลมเปล่าให้แรงสุด(ปิดสวิตซ์ A/C) เพื่อไล่ความร้อนที่มีอยู่ในระบบแอร์ออกเสียก่อน
แล้วจึงค่อยเปิดน้ำยาแอร์ (เปิดสวิตซ์ A/C)
- ก่อนจอดรถทิ้งไว้นานๆ
เช่น จอดข้ามคืน ควรเปิดลมเปล่าให้แรงสุด(ปิดสวิตซ์ A/C) ประมาณ 5 นาที
เพื่อไล่ความชื้น ไล่น้ำ ที่ค้างอยู่ในตู้แอร์ออกก่อน เพราะตู้แอร์ทำจากอลูมิเนียม
จะเกิดการผุกร่อนได้ง่าย และจะทำให้ตู้แอร์ลดการเหม็นอับอีกด้วย
- จงจำไว้เสมอว่า
ระบบแอร์ เป็น “ระบบปิด” ดังนั้นเมื่อรถคุณเติมน้ำยาแอร์บ่อยๆ
แสดงว่าเกิดการรั่วของระบบแอร์ในรถของคุณแล้ว
- ไม่ควรเปิดกระจกขับรถบ่อย
เพราะจะทำให้ฝุ่นละอองจากภายนอก เข้ามาอุดตันในตู้แอร์ได้เร็วยิ่งขึ้น
- เมื่อแอร์ไม่เย็นให้รีบปิด
น้ำยาแอร์หรือ สวิตซ์ A/C ทันที เพื่อเป็นการป้องกัน คอมเพรสเซอร์เสียหาย
แล้วรีบนำรถไปตรวจเช็ค โดยยังสามารถใช้ลมเปล่าได้
- ควรล้างตู้แอร์
ทุกๆ 2 ปี
แต่ถ้าชอบเปิดกระจกขับรถบ่อย ๆ ให้ล้างทุก ๆ ปี หรือตามเห็นสมควร
อย่างไรก็ตามสำหรับรถรุ่นใหม่ ๆ ที่มีกรองแอร์
และเจ้าของดูแลทำความสะอาด-เปลี่ยนอยู่สม่ำเสมอ สามารถยืดอายุออกไปได้อีก
- เมื่อมีเหตุจำเป็นที่ต้องเปิดกระจกขับรถ
ควรปิดช่องแอร์บริเวณคอลโซลหรือจุดที่แอร์ออกให้หมดเท่าที่จะทำได้
เพื่อให้ฝุ่นเข้าไปในระบบแอร์น้อยที่สุด
เพียงแค่ดูแลรักษาระบบแอร์รถยนต์ให้ถูกวิธี
สามารถช่วยยืดอายุการใช้งานให้ยืนยาวขึ้น แถมช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าได้อีกด้วย
คอลัมน์ : รู้ก่อนเหยียบ โดย "ช่างเอก..."
ที่มา : เดลินิวส์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น