จากกรณีเมื่อช่วงบ่าย วันที่ 11 เม.ย. ได้เกิดพายุฤดูร้อนทำให้มีฝนตกหนักในเขตพื้นที่เมืองพัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จนเกิดน้ำท่วมฉับพลันบนถนนหลายสายในตัวเมือง นอกจากนี้มวลน้ำยังทำให้กำแพงกั้นที่ดินกว่า 300 ไร่ของนักธุรกิจคนดัง ที่อยู่ติดในโครงการบ้านเอื้ออาทรเนินพลับหวาน บ้านหนองไม้แก่น ต.หนองปรือ อ.บางละมุง พังถล่มเป็นแนวยาวกว่า 20 เมตร ทำให้มีดินสไลด์และน้ำไหลบ่าเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนจนทรัพย์สินเสียหายไปนับสิบหลังคาเรือน ซึ่งในเวลาต่อมานายชาคร กัญจนวัตตะ นอภ.บางละมุง พร้อมด้วยนายมาย ไชยนิตย์ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองหนองปรือ และเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้เดินทางมาช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนในเบื้องต้นตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อช่วงเช้า วันที่ 12 เม.ย. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุภายในโครงการบ้านเอื้ออาทรเนินพลับหวานอีกครั้ง พบว่ามีประชาชนบางส่วนที่บ้านเรือนไม่ได้รับความเสียหายมากนัก ได้เริ่มทยอยเก็บกวาดทำความสะอาดข้าวของเครื่องใช้ที่ยังสามารถใช้การได้ ส่วนของประชาชนที่มีบ้านอยู่ใกล้กับกำแพงที่พังถล่มลงมา พบว่าบางหลังเจ้าของบ้านยังไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบความเสียหายได้ เนื่องจากมีดินสไลด์ลงมาขวางทางเข้าออกความสูงราว 1 เมตร
ส่วนของความช่วยเหลือจากภาครัฐเบื้องต้นทางอำเภอบางละมุง และเทศบาลเมืองหนองปรือ ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พร้อมด้วยกำลังทหารจากมณฑลทหารบกที่ 14 นำโดย พ.อ.วีระชัย สิรสาคร ผบ.ศูนย์ฝึกนักศึกษาวิชาทหาร นำอุปกรณ์และเครื่องจักรหนักมาทำการตักดินออกจากบ้านที่ได้รับความเสียหาย และนำรถบรรทุกน้ำมาฉีดล้างทำความสะอาดคราบโคลนตามบ้านเรือนและถนนภายในโครงการ พร้อมกับตั้งโรงครัวขึ้นมาประกอบอาหารให้ชาวบ้านที่เดือดร้อนได้รับประทาน เพื่อเป็นการบรรเทาทุกข์ในเบื้องต้น
สอบถามนางบุญมี เชิดรำ อายุ 60 ปี หนึ่งในชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน เล่าเหตุการณ์ระทึกให้ฟังว่า ในวันและเวลาเกิดเหตุ ตนกับหลานชายวัย 4 ขวบ อยู่ภายในบ้านเพียง 2 คน ระหว่างนั้นเกิดฝนตกลงมาอย่างหนักติดต่อกันนานนับชั่วโมง และเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อจู่ๆ ได้เกิดน้ำไหลบ่าและดินโคลนถล่มเข้าท่วมบ้านอย่างรวดเร็วโดยไม่ทันตั้งตัว จนทำให้ไม่สามารถออกจากบ้านได้ แต่โชคดีที่มีชาวบ้านในละแวกนั้นมาช่วยเหลือออกไปได้อย่างหวุดหวิด ไม่อย่างนั้นตนกับหลานคงจบชีวิตจมอยู่ใต้โคลนไปแล้ว
ด้านนายมาย เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุทางเทศบาลก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ และได้นำเจ้าหน้าที่มาทำการช่วยเหลือเก็บกวาดทำความสะอาดบ้านเรือน พร้อมกับนำรถแบ็คโฮ มาทำการขุดร่องน้ำบนที่ดินของเอกชนรายดังกล่าวเพื่อเปิดทางให้น้ำไหลไปอีกทิศทางหนึ่งซึ่งเป็นที่สาธารณะ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้น้ำไหลบ่าลงมาท่วมหมู่บ้านเอื้ออาทรอีก ส่วนของชาวบ้านที่เดือดร้อนไม่สามารถพักอาศัยในบ้านได้ ทางเทศบาลได้จัดห้องพักในอพาร์ตเมนต์ให้อยู่อาศัยเป็นการชั่วคราว จนกว่าจะดำเนินการซ่อมแซมบ้านจนแล้วเสร็จ ขณะที่รถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่ได้รับความเสียหาย ได้จัดทีมช่างมาตรวจเช็คสภาพให้อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นได้มอบหมายให้นิติกรเทศบาล ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางละมุง ให้ช่วยส่งพนักงานสอบสวนเดินทางมารับแจ้งความจากประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนที่โครงการหมู่บ้านเอื้ออาทร เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการดำเนินคดีเอาผิดกับเจ้าของที่ดิน ซึ่งในขณะนี้ยังไม่มีผู้ใดออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อช่วงบ่ายวันเดียวกัน ได้เกิดฝนตกลงมาในพื้นที่ ทำให้ชาวบ้านส่วนใหญ่ที่อาศัยในโครงการหมู่บ้านเอื้ออาทรเนินพลับหวานต่างหวาดผวา พากันเก็บข้าวของขึ้นที่สูงกันจ้าละหวั่น เพราะเกรงว่าจะเกิดน้ำท่วมอีก ขณะที่อำเภอบางละมุง เทศบาลเมืองหนองปรือ และเจ้าหน้าที่ทหาร ได้จัดกำลังคอยเฝ้าระวังประจำจุดต่างๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอย แต่พอเวลาผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมง ปรากฎว่าปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาค่อนข้างน้อย จึงทำให้มวลน้ำไม่ไหลท่วม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น